Tag: ข้อคิด

  • ถ้าคุณอดทนทำอะไรได้นานพอ สุดท้ายแล้วก็คุณก็จะประสบความสำเร็จในสิ่งนั้น

    ถ้าคุณอดทนทำอะไรได้นานพอ สุดท้ายแล้วก็คุณก็จะประสบความสำเร็จในสิ่งนั้น

    ญี่ปุ่นมีคำกล่าวหนึ่งที่ว่า 冷たい石でも3年座っていたら暖かくなるでしょう “If you persevere, you will eventually succeed” แปลเป็นไทยก็คือ ถ้าคุณอดทนทำอะไรได้นานพอ สุดท้ายแล้วก็คุณก็จะประสบความสำเร็จในสิ่งนั้น เช่นเดียวกับหิน แม้ในตอนแรก หินนั้นจะเย็นยะเยือกเฉียบเพียงใดก็ตาม แต่หากคุณนั่งบนหินนั้นไปสักสามปี สุดท้ายแล้ว แม้แต่หินที่เย็นก็จะกลายเป็นหินที่อุ่นขึ้นได้ หากเทียบกับสุภาษิตไทย ก็อาจจะคล้ายๆกับ “ความพยายามอยุ่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” หรือ “น้ำหยดบนหิน ทุกวันหินยังกร่อน”   แล้วทำไมถึงต้อง 3 ปี คำตอบคือ การที่เราจะเรียนรู้สิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ผลสัมฤทธิ์ดีนั้น คุณจำเป็นต้องให้เวลากับสิ่งๆนั้น ในหนึ่งปีแรกนั้น เราอาจจะได้เรียนรู้ความรู้พื้นฐานในสิ่งนั้นทั้งหมด และในปีที่สองถัดมา องค์รวมความรู้ที่เราสะสมไว้ก็จะเริ่มออกดอกออกผล เราสามารถนำความรู้มาใช้งานได้อย่างดีมากขึ้น และในปีที่สาม ผู้เขียนมองว่า เป็นปีหัวเลี้ยวหัวต่อ ระหว่างการเลือกในสิ่งที่เรารู้อยู่แล้ว และจะพัฒนาไปให้ดียิ่งๆขึ้น หรือ เราอาจจะพบว่า สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการจริงๆ และสุดท้าย เราอาจจะล้มเลิก หรือเบนเข็มไปในทิศทางอื่น   ดังนั้น ในช่วงเวลาสามปี จึงเป็นช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ ลองผิดลองถูก และท้าทายความสามารถตัวเอง หากสุดท้ายแล้ว…

  • คุณเคยลอกข้อสอบไหม?

    คุณเคยลอกข้อสอบไหม?

     คุณเคยลอกข้อสอบไหม❓ เชื่อว่าทุกคนคงจะมีคำตอบในใจกันแล้ว ผู้เขียนไม่ได้จะตัดสินใจเรื่องการลอกข้อสอบ แต่ผู้เขียนจะมาแชร์เรื่องราวหนึ่งในวัยเด็กกับผู้อ่าน เพื่ออาจจะเป็นข้อคิดเล็กๆน้อยๆกลับไปฝากท่านผู้อ่าน เหตุเกิดในวันเด็ก สมัยเป็นเด็กเล็กมาก ตอนนั้นอยู่ระดับชั้นอนุบาล 1 หรือ2 ก็จำไม่ค่อยชัดเจนแล้วนั้น ในขณะที่ความทรงจำในวัยเด็กขนาดนั้นค่อนข้างเลือนลางแต่สิ่งที่ผู้เขียนจำไม่ได้ ไม่เคยลืมเลย คือ ผู้เขียนถูกกล่าวโทษว่า “ลอกข้อสอบเพื่อน” ภาพจำในสมองที่ชัดเจนคือ วันนั้นเป็นวันสอบอะไรสักอย่าง โต๊ะของนักเรียนอนุบาลแต่ละคนถูกแยกห่างจากกัน จังหวะที่ เด็กคนหนึ่งกำลังนั่งมองเหม่อ ใบหน้าก็หันไปมองด้านข้างเรื่อยๆ แต่สสายตาไม่ได้เพ่งไปที่ กระดาษข้อสอบแต่อย่างใด และคงประจวบกับเป็นระยะโต๊ะของเพื่อนอนุบาลคนอื่น และแบบนั้นเอง ที่ทำให้เด็กอนุบาลคนนั้นถูกครูตำหนิว่า “ลอกข้อสอบ”   ลอกข้อสอบคืออะไร เด็กอายุเท่านั้นยังไม่เข้าใจความหมายจริงๆเลยด้วยซ้ำว่า ทำไมต้องลอกข้อสอบ เด็กอายุแค่ 4-5ขวบ มีความจำเป็นอะไรต้องลอกข้อสอบหรือ เพื่อให้ได้เกรดดีๆ มีหน้ามีตาในสังคมหรือ แค่เพียงเด็กที่ยังไม่เข้าใจถ่องแท้ว่า เวลาสอบไม่ควรหันมองรอบข้าง ไม่ได้หมายว่า เด็กคนนั้นจะมีเจตนาลอกข้อสอบแต่อย่างใด และโดยไม่ฟังคำอธิบายของเด็กคนนั้น คุณครูอนุบาลคนนั้น ได้เรียกพบผู้ปกครองและแจ้งว่า ลูกคุณลอกข้อสอบนะ ภาพความทรงจำหลังจากนั้น ช่างเบาบางเลือนลางนัก ผู้เขียนเองก็จำไม่ได้แจ่มชัดนัก แต่ผู้เป็นแม่ ไม่ได้ตำหนิหรือว่ากล่าวโทษใดๆเมื่อฟังคำอธิบายที่ออกจากปาก ลูกตัวน้อยที่ค่อนข้างยังตกใจและสับสนว่าตนเองทำอะไรผิด “หนูแค่มองไปข้างๆ ตาไม่ได้ดูกระดาษ(ข้อสอบของคนอื่น)เลย”   เมื่อผลสอบครั้งนั้นออก…