ช่วงนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก หากเอ่ยถึง Clubhouse แอพพลิชั่นเพื่อ‘คนรักการฟังด้วยเสียง’ ในยุคดิจิตอล
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในยุคนี้ที่ช่องทางการเสพสื่อต่างๆมีมากมายหลากหลาย ทั้ง facebook, twitter, Instagram, youtube และอื่นๆมากมาย ที่สามารถเข้าถึงได้เพียงปลายนิ้วคลิก
และผู้เสพสื่ออย่างเราๆ สามารถเลือกได้ว่าต้องการจะเข้าถึงความบันเทิงเหล่านั้นเมื่อไหร่ตอนไหน นั่นทำให้รูปแบบการฟังวิทยุที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสิ่งที่แต่ละบ้านเรือน หรือในสถานที่ทำงานที่ต้องมีวิทยุติดบ้านกันไว้ทั้งนั้น น่าจะลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ
แต่เมื่อไลฟ์สไตล์และเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกยุคนี้ไป การมาของ Clubhouse เสมือนหนึ่งการนำรูปแบบวิทยุที่คนในยุคหนึ่งเคยคุ้นเคย มาผสานไอเดียการนำเสนอใหม่ ผ่านช่องทาง application และสร้างความแตกต่างให้กับแอพ และรูปแบบประสบการณ์ที่แตกต่างของผู้ใช้งาน นั่นคือ การมีส่วนร่วมในระหว่างการฟังได้ของผู้ฟัง
ดังนั้นน่าจะบอกได้ว่า
ข้อดีที่สร้างความแตกต่างให้สำหรับ Clubhouse
- ผู้ฟังสามารถมีส่วนร่วมในระหว่างการฟัง นั่นคือสามารถปฏิสัมพันธ์กับผู้พูดในกลุ่มได้
- สามารถเลือกเข้าร่วมกลุ่มที่รับฟังได้อย่างหลากหลาย รอบโลก ไม่ว่าจะเป็นคนดังแค่ไหน clubhouse ทำให้คนธรรมดาๆอย่างเราสามารถเข้าไปร่วมฟังในกลุ่มที่มีบุคคลที่ตนเองนับถือ ชื่นชม และสามารถพูดคุยโต้ตอบได้ เรียกได้ว่า ย่อโลกให้เล็กลงไปอีกสเต็ป
ข้อเสีย หรือข้อที่อาจจะเป็นกังวล
- ความเป็นส่วนตัว เพื่อนหรือผู้ติดตามเราสามารถเห็นได้ว่า เราเข้าร่วมหรือเข้าฟังกลุ่มไหน ซึ่งบางทีเราก็คงอยากเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัว
- ตอนนี้ยังจำกัดการใช้งานแค่ผู้ใช้งาน ios อยู่ ทำให้ผู้ใช้งานระบบแอนดรอยด์ไม่สามารถเข้าถึงได้ในปัจจุบัน
และอย่างที่หลายคนทราบอยู่แล้ว ต่อให้มีมือถือระบบ ios ก็ใช่ว่าจะเข้าไปใช้งาน clubhouse ได้ทันที เพราะผู้ที่จะใช้งานได้ต้องได้รับการเชิญจากคนที่ใช้แอพนี้อยู่ก่อนแล้วเท่านั้น โดยทำการลงทะเบียนผ่านเบอร์โทรศัพท์มือถือ และนี่น่าจะเป็นความฉลาดในการสร้าง brand value ให้ตนเองของ clubhouse
แต่ก็อย่างว่า ถึงจะมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่ก็ตาม แต่ในยุคที่ผู้บริโภคมีสิทธิ์ในการเลือกเช่นปัจจุบันนี้ การมีอีก ‘ตัวเลือก’ ที่เข้ามาช่วยสร้างความหลากหลายได้มากขึ้น ก็ย่อมเป็นเรื่องดีกับผู้บริโภคอย่างเราๆไม่ใช่หรือ
Leave a Reply