Author: Yonoi

ควันหลงวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ผู้เขียนได้รับดอกกุหลาบสีแดงดอกใหญ่หนึ่งดอกจากสามี หลายคนที่ติดตามบล็อกของผู้เขียนอยู่ น่าจะพอรู้ว่า ผู้เขียนปัจจุบันอาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นกับสามีชาวญี่ปุ่น มีหลายคนทั้งคนไทยและเพื่อนคนญี่ปุ่นมักจะถามว่า “รู้จักกันได้อย่างไร”  ไหนๆก็อยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ บรรยากาศกลิ่นอายของความรักช่างอบอวลอยู่รอบตัวเราแบบนี้ ผู้เขียนเลยอยากแชร์ความคิดเห็นส่วนตัวที่มีเกี่ยวกับหนุ่มญี่ปุ่นหน่อยค่ะ เผื่อเป็นแนวทางหรือกำลังใจให้กับสาวๆไทยที่กำลังแอบปลื้มหนุ่มญี่ปุ่นอยู่ ผู้เขียนเองเคยผ่านช่วงเวลาแอบชอบหนุ่มญี่ปุ่น (สามีในปัจจุบัน) กว่าจะลงเอยกันได้ก็ไม่ใช่ง่ายเลย เพราะด้วยวัฒนธรรมที่ต่างกัน ผู้ชายญี่ปุ่นหรือแม้แต่ผู้หญิงเองก็ตาม ส่วนใหญ่จะเป็นคนประเภทที่ไม่ค่อยแสดงออกเรื่องความรัก หรือความรู้สึกมากนัก ดังนั้นเนี่ย ถ้าสาวไทยคนไหนแอบชอบหนุ่มญี่ปุ่นอยู่ละก็ เข้าใจไว้ได้เลยค่ะ ว่าคุณกำลังเจอประสบการณ์ความรักที่ท้าทายแบบหนึ่งเลยทีเดียว เพราะการที่หนุ่มญี่ปุ่นไม่ค่อยแสดงออกทั้งทางสีหน้า และอารมณ์แล้วนั้น ทำให้ในช่วงแรกที่เพิ่งรู้จักกัน เราจะแทบไม่่เข้าใจหรือคาดเดาไม่ได้เลยว่าเขาคิดหรือรู้สึกอย่างไร ซึ่งถ้าเป็นความสัมพันธ์แบบทั่วไปก็คงจะไม่เป็นอะไร แต่ถ้าเราแอบชอบเขาไปแล้ว คงจะลำบากใจไม่น้อยที่แทบจะไม่รู้หรือเข้าใจความรู้สึกของเขาเลย ผู้เขียนเอง ผ่านประสบการณ์เหล่านั้นมาแล้วและปัจจุบันแต่งงานกับสามีชาวญี่ปุ่นมาหลายปีแล้วค่ะ ทุกวันนี้เราทั้งคู่จะบอกว่า รัก และกอดกันทุกวัน บอกรัก และการกอดกันทุกวัน คำนี้ถ้าเป็นคู่แต่งงานชาติอื่นอาจจะดูธรรมดา ไม่เห็นมีอะไรแปลก แต่สำหรับคู่ที่แต่งงานกับคนญี่ปุ่น การบอกรัก และกอดกันทุกวัน ถือว่าเป็นเรื่องไม่ธรรมดาแน่นอนค่ะ ผู้เขียนเองก็ไม่ได้มีเคล็ดลับอะไรพิเศษ แต่บางเรื่องราวที่ผู้เขียนทำเองแล้วเห็นผลจริงและคิดว่าเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ก็อยากจะแชร์เป็นแนวทางไว้ ผู้ชายญี่ปุ่นชอบผู้หญิงที่แสดงให้เห็นถึงความจริงใจ ผู้ชายญี่ปุ่นส่วนใหญ่ มักจะสนใจหรือมีโอกาสที่จะพัฒนาความรู้สึกไปเป็นชอบผู้หญิงที่แสดงให้เห็นถึงความจริงใจที่มีต่อเขา ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเลย ก็คือ ที่ญี่ปุ่น ธรรมเนียมในนวันวาเลนไทน์ คือ ผู้หญิงบอกรักหรือให้ช็อคโกเลตหรือแสดงออกว่าชอบผู้ชายคนนั้นในวันแห่งความรัก ซึ่งในสายตาผู้ชายญี่ปุ่นหลายคนจะสามารถเข้าใจว่าผู้หญิงคนนั้นชอบตนเองแบบชายหญิงหรือเพียงแค่ให้ในฐานะเพื่อนคนนึง ก็ดูได้จากชอคโกเลตที่ผู้หญิงให้นี่แหละค่ะ กล่าวคือ…

หากใครที่กำลังถือครองคอนโดมิเนียมหรืออสังหาริมทรัพย์อยู่ และต้องการขายออกเพื่อปลดภาระหนี้สินก็ดี เพื่อการเก็งกำไรก็ดี ลองหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตก็แล้ว แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าตนเองเริ่มถูกทางไหม การใช้ Agent อาจช่วยผ่อนแรงได้ก็จริงอยู่ แต่ก็มาพร้อมค่าใช้จ่าย หรือ commission ที่เราเรียกกันติดปากนั่นเอง หลายคนที่กำลังต้องการจะขายคอนโด อาจจะกังวลเรื่องขั้นตอนยุ่งยากต่างๆ แต่จริงๆแล้ว หากคุณลองทำไปตามสเต็ปขั้นตอนเหล่านี้ รับรองว่าการขายคอนโดเองไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถแน่นอน (1) การประกาศขายและช่องทางที่เป็นประโยชน์ ตามความเข้าใจของผู้เขียน Agent หรือนายหน้าขายคอนโด อาจจะแบ่งได้ 2 ประเภทหลักๆ 1) Agent แบบสัญญาเปิด ปัจจุบันเป็นรูปแบบนี้ค่อนข้างมาก Agent ส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบฟรีแลนซ์ที่รับงานมาและมีทีมงานช่วยปิดการขายให้ลูกค้าโดยเสนอการทำสัญญาเปิดกับเจ้าของหรือผู้ถือครองอสังหาฯนั้น “สัญญาเปิด คืออะไร” คำตอบคือ สัญญาแบบไม่ผูกมัด จะมีการจ่ายคอมมิชชั่นในกรณีที่ Agent เจ้านั้นเป็นผู้ปิดการขายได้เท่านั้น หลายกรณีAgent 2-3 รายก็จะทำงานร่วมกัน และเมื่อปิดการขายได้ก็จะแบ่งค่าคอมมิชชั่นกันนั่นเอง ซึ่งAgent หนึ่งรายจะพยายามถือสัญญาเปิด กับลูกค้าหลายๆรายให้มากที่สุด เพื่อโอกาสในการขายที่มากขึ้น เมื่อมีผู้ซื้อต้องการซื้อ ก็สามารถเสนอได้ตรงความต้องการทั้งในแง่โลเคชั่น ราคา และองค์ประกอบอื่นๆ ข้อดี คือ ผู้ขายจะไม่ต้องเสียค่าคอมมิชชั่น หากการปิดดีลไม่ได้ผ่าน Agent…